วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2558

Fourth : (Learning log 1st September, 2015)

Fourth: Learning log   ( 1st  September,2015)


การศึกษาของไทย

การศึกษาเป็นกระบวนการที่มุ่งพัฒนาให้คนมีคุณภาพ มีความสามารถและมีศักยภาพทางด้านการศึกษา  มีการพัฒนาทั้งร่างกาย จิตใจ อารมณ์และสังคม  ช่วยขัดเกลาให้เป็นคนดี มีคุณธรรมจริธรรม เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์และสามารถอยู่ร่วมในสังคมได้อย่างมีความสุข จะสังเกตได้ว่าการศึกษาของไทยในอดีตกับปัจจุบันมีความแตกต่างกันมาก เพราะในอดีตจะมีการเรียนการสอนแบบท่องจำ ส่วนใหญ่จะมีการสอนเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ การคัดลายมือ ช่างฝีมือ ช่างแกะสลัก ซึ่งมีความแตกต่างจากการศึกษาในปัจจุบันที่มีความซับซ้อนมากขึ้น  มีสื่อและเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้อง การที่การศึกษาของไทยตกต่ำลงสามารถสังเกตได้จากคะแนนการสอบของเด็กไทยไม่ว่าจะเป็นคะแนนพิซ่า ตะแนนGAT   คะแนนPATและคะแนนO-NET ที่ลดต่ำลงเรื่อยๆ  เด็กไทยขาดการคิด การวิเคราะห์ ไม่มีความอดทน ขาดความรับผิดชอบในการเรียน และที่สำคัญเด็กไทยขาดคุณธรรมจริยธรรมในการเรียน ทั้งนี้ทั้งนั้นการที่เด็กไทยมีการเรียนตกต่ำลงอาจเนื่องมาจากปัจจัยอื่นๆด้วย เช่น สภาพแวดล้อมทางสังคม การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจ สถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันที่มีความวุ่นวาย  นโยบายการเมืองต่างๆที่ส่งผลต่อการศึกษาของไทย และอาจจะรวมไปถึงคนไทยไม่ค่อยเห็นความสำคัญของการศึกษาไทยก็อาจจะเป็นไปได้
การศึกษาของเด็กไทยในอดีตกับในปัจจุบันมีความแตกต่างเป็นอย่างมาก การเรียนการสอนในอดีตจะมีการเน้นการสอนแบบท่องจำ ผู้หญิงจะมีการเรียนเกี่ยวกับการบ้านการเรือน แต่ถ้าป็นผู้ชายจะศึกษาในวัดซึ่งส่วนใหญ่แล้ววิชาที่เรียนจะเกี่ยวกับการอ่าน การเขียน การคิดเลข การคัดลายมือ ช่างฝีมือและการแกะสลักต่างๆ ดังนั้นเนื้อหาการสอนจึงไม่มีความซับซ้อมมากนัก แต่ต่างกับปัจจุบันมากถือได้ว่าเป็นยุคโลกาภิวัตน์หรือสังคมไร้พรมแดน  เพราะเป็นยุคแห่งการเรียนรู้  มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาในการเรียนการสอน ซึ่งจะเป็นที่รู้กันดีว่าการศึกษาของไทยมีการพัฒนาที่ล่าช้ามาก  เป็นระบบการสอนแบบป้อนเข้าให้ผู้เรียนอย่างเดียว ทำให้เด็กคิดไม่เป็น  แก้ปัญหาไม่เป็นและวิเคราะห์ไม่เป็น นักเรียนจะเรียนแบบการท่องจำอย่างเดียว  ถึงแม้ว่านักเรียนจะมีชั่วโมงเรียนที่มากแต่ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนลดต่ำลง ผลสัมฤทธิ์ของการเรียนที่วัดจากการผลสอบมาตรฐานทั้งในประเทศ คือ O-Net ซึ่งคะแนนเฉลี่ยตกต่ำมาอย่างต่อเนื่องและผลของ PISA ซึ่งเป็นการทดสอบนานาชาติอยู่ในอันดับท้ายๆ ซึ่งยังน้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้านมาก สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องมือยืนยันว่าการศึกษาของไทยตกต่ำลง
 การศึกษาของเด็กไทยมีคุณภาพลดต่ำลงเพราะเนื่องมาจากปัจจัยที่สำคัญอย่างแรกก็คือ ตัวผู้เรียนเอง    การที่ผู้เรียนจะประสบความสำเร็จในการเรียนและเกิดการเรียนรู้ในตัวเองนั้นสิ่งแรกที่ผู้เรียนควรจะมีคือ “คุณธรรมจริยธรรม” พบว่าเด็กไทยขาดคุณธรรมในการเรียน ได้แก่ ความซื่อสัตย์สุจริตในการเรียน บางครั้งนักเรียนไม่มีความความซื่อสัตย์ในการทำข้อสอบ ไม่มีความรับผิดชอบในการทำงานและขาดระเบียบวินัยในตนเอง  ดังนั้นในในการสอนแต่ละครั้งครูเป็นบุคคลสำคัญที่จะสอนเนื้อหาและสอนคุณธรรมแทรกไปด้วย  เพื่อเป็นการอบร่มบมนิสัยให้เด็กมีคุณธรรมจริธรรมที่แท้จริง เป็นเด็กที่มีความรู้คู่คุณธรรม  คุณธรรมที่ผู้เรียนควรจะมีได้แก่ การรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์  ความซื่อสัตย์สุจริตต่อตัวเองและผู้อื่น  การมีวินัยในตนเองในเรื่องของการแต่งกาย ปฏิบัติตามระเบียบและกฏของห้องเรียนและโรงงเรียน  การใฝ่รู้ใฝ่เรียนและมีความเพียรพยายยามในการเรียน  การอยู่อย่างพอเพียงคือ สอนให้ผู้เรียนดำเนินชีวิตอย่างประมาณตน มีเหตุผล รอบคอบ  อยู่ร่วมกับผู้อื่นด้วยความรับผิดชอบ  มุ่งมั่นการทำงาน รักความเป็นไทยคือ การสอนให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ สืบทอด เผยแพร่ภูมิปัญญาไทย ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะและวัฒนธรรมไทยและการมีจิตสาธารณะ และที่สำคัญครูควรสอนทักษะชีวิตให้ผู้เรียน ครูไม่ควรสอนแต่ทฤษฎีแต่ควรให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริงและแก้ปัญหาด้วยตนเอง  ฉะนั้นความรู้ไม่ได้เป็นตัวบ่งบอกว่าผู้เรียนประสบความสำเร็จในการเรียน แต่การที่ผู้เรียนมีความรู้คู่คุณธรรมจะทำให้ผู้เรียนเป็นเด็กที่เก่ง เป็นคนดีและพร้อมที่จะเป็นเยาวชนที่มีคุณภาพในสังคมไทย
ปัจจัยที่สองที่ส่งผลต่อการศึกษาของไทยคือ สภาพทางสังคมและปัญหาทางการเมืองของประเทศไทยที่ส่งผลต่อการศึกษาของประเทศ  การปฏิรูปหรือพัฒนาการจัดการศึกษาจะสำเร็จหรือล้มเหลวหรือไม่ขึ้นอยู่กับการเมือง หากการเมืองไทยมีเงื่อนไขบางประการที่เป็นอุปสรรค จะส่งผลให้การปฏิรูปการศึกษาไทยไม่ก้าวหน้าหรือประสบความสำเร็จเท่าที่ควร บางครั้งผู้ที่เข้ามาดำรงตำแหน่งจึงมิใช่ผู้มีความรู้ในด้านการศึกษาอย่างแท้จริง ความไม่สอดคล้องของเป้าหมายของการจัดการศึกษากับเป้าหมายทางการเมือง เป้าหมายของนักการเมืองหลายคนคือ ต้องการคะแนนนิยม จึงมีนักการเมืองจำนวนไม่น้อยที่ไม่ดำเนินนโยบายที่ให้ผลในระยะยาว เนื่องจากเสี่ยงที่จะทำให้ตนเองไม่เป็นที่นิยมทางการเมือง ซึ่งนั่นหมายความรวมถึงนโยบายการศึกษา  การที่นักการเมืองคนใหม่ปฏิรูปการศึกษาและวางนโยบายการศึกษาใหม่ จะทำให้การจัดการศึกษาและการปฏิรูปการศึกษาไม่มีผลระยะยาวและไม่เกิดการปฏิรูปการศึกษาที่แท้จริง ดังนั้นนักการเมืองจึงเลือกดำเนินนโยบายที่เห็นผลในระยะสั้น เพื่อทำให้ตนเองได้รับเลือกตั้งเข้ามาอีกครั้ง อันเป็นอุปสรรคยิ่งต่อการพัฒนาการศึกษาไทย  นอกจากนั้นแล้วปัญหาทางเศรษฐกิจของประเทศไทยที่ส่งผลต่อการศึกษาของไทย
นอกจากนั้นแล้วยังมีอีกหนึ่งปัจจัยก็คือ คนไทยไมเห็นความสำคัญของการศึกษาไทย ขาดการตระหนักถึงคุณค่าทางการศึกษาอย่างแท้จริง ผู้เรียนมีพฤติกรรมการเรียนแบบเรียนไปเรื่อยๆ ไม่ได้ตั้งจุดมุ่งหมายในการเรียนที่ชัดเจน การที่เด็กไม่เห็นความสำคัญของการศึกษาอาจเป็นเพราะว่าตัวเด็กเองไม่ได้ตั้งในในการเรียน ส่วนผู้ปกครองก็ไม่ได้สอนให้เด้กมุ่ฝมั่นและเห็นความสำคัญของในการเรียน ดังนั้นผู้ปกครองควรสอดส่องดูพฤติกรรมการเรียนของเด็ก สอนให้เด็กมีความอดทน อดกลั้น สอนให้เด็กมีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม สอนให้เด็กเป็นคนดีของสังคม และขณะเดียวกันครูก็ควรมีการสร้างแรงจูงใจให้เด็กชอบและสนใจในการเรียน สอนให้เด็กรู้จักตนเอง( Self awareness)มากขึ้น  สอนให้เด็กรู้ว่าเขาเป็นคนอย่างไร ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร เก่งอะไร ไม่เก่งอะไร และรู้จักอารมณ์ของตนเอง ซึ่งการรู้จักตนเองนั้นจะเป็นรากฐานของการสร้างความเชื่อมั่นในตนเองและสามารถที่จะพัฒนาในจุดด้อยหรือจุดบกพร่องของตนเองได้ และส่งผลให้ผูเรียนอยากที่จะเรียนรู้และลงมือทำกิจกรรมด้วยตนเอง สามารถเห็นคุณค่าและความสำคัญของการศึกษา
ดิฉันคิดว่าการศึกษาเป็นกระบวนการเรียนรู้อย่างหนึ่งที่ช่วยพัฒนาคนให้เป็นคนที่มีคุณภาพ มีศักยภาพในการทำงานและพร้อมที่จะใช้ชีวิตในสังคม เมื่อพูดถึงการศึกษาของไทยยังถือว่ายังไม่ค่อยจะมีประสิทธิภาพเพเราะเนื่องด้วยมปัจจัยหลายอย่าง เช่น การขาดคุณธรรมจริยธรรมของผู้เรียน สภาพทางสังคมและปัญหาทางการเมืองของไทย การม่เห็นความสำคัญของการศึกษา เป็นต้น หากว่าผู้เรียนเองมีการพัฒนาตนเอง หาข้อบกพร่องของตนเอง และพัฒนาจุดด้อยในการเรียนของตนเอง ประกอบกับว่าครูสอนให้เด็กเรียนเป็นศูนย์กลางในการเรียนและสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมในระหว่างที่เรียน ก็จะช่วยให้การศึกษาไทยมีศักยภาพ  สร้างผู้เรียนที่เก่ง ดี และมีคุณธรรม  ถ้าหากยโยบายการศึกษาของประเทศมีการปฏิรูปการศึกษาที่แท้จริงและมีการสานต่อนโยบายการศึกษาที่ต่อเนื่อง ก็จะทำให้การศึกษาของไทยมีการพัฒนาทันประเทศอื่นๆและสมาชิกในประเทศเป็นสมาชิกที่มีคุณภาพและพร้อมที่จะใช้ชีวิตอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น