วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

งานแปล นิยายเรื่อง “ Five children and it”

งานแปล นิยายเรื่อง  “ Five children and it
(First)
บทที่ 1
เด็กๆที่สวยหล่อ
บ้านหลังหนึ่งอยู่ห่างจากสำนักงานประมาณ 4 กิโลเมตร หลังจากนั้นเพียงไม่กี่นาทีก็มีเด็กๆถามว่า “พวกเราอยู่ใกล้ที่นั่นแล้วใช่หรือไม่” และทุกๆครั้งที่พวกเขาเห็นบ้านหลังนั้น พวกเขาก็พูดว่า “โอ้ มันใช่หรือ” แต่มันก็ไม่ใช่ จากนั้นพวกเขามาที่เนินเขาและที่นั่นเป็นบ้านหลังสีขาว มีสวนสีเขียวขจีและมีไม้ผลมากมาย แม่พูดว่า “พวกเราอยู่ที่นี่”
ทุกคนจึงรีบลงจากรถม้า ได้แก่ โรเบิร์ต แอนเธีย เจน ไซริล มาร์ธาและหญิงเลี้ยงเด็กกับเด็กน้อย แต่แม่ไม่ได้รีบลงจากรถม้า เด็กวิ่งไปรอบๆบ้านและทุกคนชมสวนเพื่อดูว่าที่นั่นเป็นอย่างไร แต่แม่ก็ยังยืนอยู่และดูคนขับรถม้าขณะที่เขากำลังถือกล่องเข้าไปในบ้าน

เด็กๆชอบบ้านหลังนี้ พวกเขารู้ทันทีว่าพวกเขากำลังจะมีความสุขที่นั่น แต่แม่ไม่ได้ชอบบ้านหลังนี้มากนัก เพราะมันเก่าและไม่มีตู้เสื้อผ้า แต่มันอยู่ลึกเข้าไปในชนบท หลังจากนั้น 2 ปีเด็กๆคิดว่าลอนดอนเป็นเมืองมหัศจรรย์ ถ้าพวกคุณอยู่ในลอนดอนและครอบครัวของคุณยากจน คุณจะเบื่อเพราะคุณไม่สามารถไปซื้อของและไปโรงหนังได้  ผู้คนจึงพูดว่า “อย่าทำอย่างนี้เลยและอย่าไปที่นั่นเลย” คุณสามารถที่จะไปได้ทุกที่และทำสิ่งต่างๆได้ในชนบท
บ้านหลังสีขาวนี้ตั้งอยู่บนเนินเขา มีป่าไม้อยู่หลังบ้านและมีบ่อกรวดอยู่ข้างบ้าน มันป็นหลุมกรวดที่เด็กๆพบเทพธิดาองค์หนึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกเรียกตามชื่อของมัน แต่มันเป็นเทพธิดาที่ไม่เหมือนเทพธิดาองค์อื่น
มันเกิดขึ้นเมื่อแม่ต้องไปอยู่กับยายที่ป่วย มาร์ธาอยู่กับเด็กๆ แต่บ้านดูเงียบและว่างเปล่ามาก ส่วนเด็กๆก็ไม่รู้จะทำอะไร จากนั้นไซริลก็พูดว่า “ไปที่หลุมกรวดกันเถอะ”
หลุมกรวดมีขนาดใหญ่มากๆ มีหญ้าและดอกไม้ป่าบริเวณด้านข้างใกล้ๆบ่อ เมื่อพวกเขาไปที่นั่น พวกเขาก็ตัดสินใจที่จะลงไปในบ่อเพื่อเล่นทราย
โรเบิร์ตพูดว่า “ช่วยกันขุดหลุมให้ลึกๆหน่อย บางทีพวกเราสามารถที่จะหาวิธีที่จะไปออสเตรเลียได้”
คนอื่นๆก็เห็นด้วยและพวกเขาทุกคนก็เริ่มขุดทรายอย่างเอาจริงเอาจัง แต่มันเป็นวันที่ร้อนมากๆ เด็กน้อยได้นอนหลับไป โรเบิร์ต ไซริล และเจนได้นั่งพัก ส่วนแอนเธียกำลังขุดหลุมอยู่
ทันใดนั้นเธอก็ร้องลั่นขึ้นมาว่า ไซริล! มานี่หน่อย! เร็วๆ! มีบางสิ่งที่มีชีวิตอยู่
ทุกคนกระโดดขึ้นและรีบไปดูว่ามันคืออะไร
แอนเธียบอกว่า “มันมีเท้าละขน อย่าทำร้อยมันเลย ฉันรู้ว่ามันป็นเรื่องไร้สาระ แต่มันก็พูดบางอย่าง”
ไซริลถามว่า “มันพูดอะไร”
มันพูดว่า “คุณปล่อยให้ฉันโดดเดี่ยว”
คนอื่นๆจึงหัวเราะ แต่เด็กผู้ชายสองคนเริ่มเลิกเล่นทราย ทันใดนั้นพวกเขาก็เห็นบางสิ่งที่เคลื่อนไหวได้อยู่ในหลุม
ทันใดนั้นก็มีเสียงร้องออกมา “คุณปล่อยให้ฉันอยู่เดียวดาย”
พวกเขาทั้งหมดจึงกระโดดกลับและไม่มีใครพูดเลยในขณะนั้น จากนั้นโรเบิร์ตจึงพูดว่า “แต่พวกเราต้องการจะเห็นคุณ”
แอนเธียพูดว่า “ใช่ ฉันอยากให้คุณออกมา”
มีเสียงพูดออกมาว่า “โอ ดีเลย ถ้ามันเป็นความต้องการของคุณ”  และทรายก็เริ่มขึ้นมาตามที่ต่างๆ จากนั้นก็มีบางสิ่งสีน้ำตาลและมีขนนุ่มๆ และร่างอ้วนๆตกลงไปในหลุม  มันพูดว่า “ฉันคิดว่าฉันง่วงนอน”
เด็กๆก็ยืนมองไปที่มัน มันดูแปลกมากๆ มันสามารถเคลื่อนไหวตาของมันเข้าและออกนอกได้ มันมีตาที่ใหญ่  ตัวอ้วนและมีขนรอบๆตัวมัน ขาและแขนของมันมีขนนุ่มๆอยู่ และมีมือและตีน
เจนถามว่า “มันคืออะไร” “พวกเราจะพามันกลับบ้านใช่ไหม”
ตาของมันยื่นออกมาที่เธอ มันพูดว่า “เธอพูดในสิ่งที่ไร้สาระเสมอใช่หรือไม่”
แอนเธียพูดว่า “เธอไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น” “อย่ากลัวไปเลย พวกเราจะไม่ทำร้ายคุณ”
มันร้องขึ้นมาว่า “ฆ่าฉันสิ” มันโกรธนิดหน่อย “ฉันไม่กลัวพวกคุณเลย!
แอนเธียพูดอย่างนุ่มนวลว่า “โอ ไม่โกรธ” “บอกพวกเราหน่อยว่าคุณคือใคร” พวกเราไม่รู้จริงๆ
มันพูดว่า “คุณไม่รู้จริงๆหรือ” “คุณไม่รู้จักแซมมีดหรือเมื่อคุณเห็นมัน”
เจนถามว่า “แซมมีดใช่ไหม” “นั่นใช่ไหม”
“ใช่เลยเทพธิดาแห่งทราย คุณไม่รู้จักเทพธิดาแห่งทรายใช่ไหมเมื่อคุณเห็นมัน”
เจนพูดว่ามันดูเศร้ามากๆ ใช่เลย“ตอนนี้ฉันสามารถเห็นเทพธิดาแห่งทราย”
โรเบิร์ตพูดว่า “ดีเลย ฉันไม่รู้ว่าคุณคือแซมมีด แต่ฉันสามารถเห็นคุณเป็นสิ่งมหัศจรรย์มากๆ โปรดพูดกับพวกเราเถิด”
แซมมีดดูเหมือนจะมีความสุขเล็กน้อยเมื่อมันได้ยิน มันพูดว่า “คุณสามารถพูดกับฉันได้ ถ้าหากคุณต้องการที่จะพูด บางทีฉันจะตอบคุณและบางทีฉันจะไม่ตอบคุณ ตอนนี้จะพูดบางสิ่ง”
ตอนแรกๆเด็กๆไม่สามารถคิดในสิ่งที่จะพูดได้ จากนั้นโรเบิร์ตถามว่า “คุณได้อยู่ที่นี่นานเท่าไหร่แล้ว”
แซมมีดตอบว่า “โอ้ หลายพันปีมาแล้ว”
เด็กๆได้แต่รอ แต่แซมมีดก็เงียบ
โรเบิร์ตพูดว่า “โปรดบอกเราอีกเถิด”
แซมมีดพูดว่า “ตกลง”  “มีหลายเรื่องที่จะพูด” มันเดินนำหน้าไป “ผู้คนจึงส่งลูกๆของพวกเขาออกไปตามหาแซมมีด และเมื่อเด็กๆพบพวกเรา พวกเราจะให้พรพวกเขา 1 ข้อ”
โรเบิร์ตถามว่า “เกิดอะไรขึ้นกับแซมมีดทั้งหลาย”
“ดีเลย ถ้าพวกเขาเปียก พวกเขาจะเปียกและมักจะตาย และสิ่งนั้นก็จะเกิดขึ้น ส่วนใหญ่แล้วพวกมันจะเปียกและตาย และฉันก็จะไม่บอกคุณเรื่องอื่นอีก”
โรเบิร์ตพูดว่า “โอ นั้นถามมาอีกหนึ่งคำถาม” “คุณจะอวยพรตอนนี้เลยใช่ไหม”
แซมมีดพูดว่า “คุณมีพร1 ข้อ” “คุณอยากจะพบฉันและฉันก็อยู่นี่แล้ว”
แอนเธียจึงขอร้องขึ้นมาว่า “โอ อีกหนึ่งข้อ”
“ตกลง แต่เร็วๆหน่อย! ฉันเบื่อกับคุณแล้ว!
มันยากมากๆที่จะคิดคำอวยพรดีๆสองครั้ง จากนั้นแอนเธียจำคำอวยพรของเธอและของเจนได้ เธอรู้ว่าเด็กผู้ชายจะไม่ชอบเรื่องนี้ แต่ดีกว่ามันไม่มีอะไรเลย
เธอพูดว่า “ฉันอยากให้พวกเราทุกคนสวยมากๆ”
แซมมีดจึงดึงตาที่ยาวของมันออกมา มันตัวใหญ่และอ้วนและเด็กๆก็รอดู  จากนั้นมันพูดว่า “ฉันขอโทษ”  ฉันไม่ได้ทำแบบนี้มานานแล้ว ฉันจะลองทำอีกครั้ง แต่ฉันสามารถให้คำอวยพร 1 คำอวยพรต่อ 1 วันสำหรับคุณ คุณเห็นด้วยกับสิ่งนี้ไหม
เด้กๆจึงร้องว่า “ใช่  โอใช่เลย”
แซมมีดจึงพูดว่า “แต่จงจำว่าคำอวยพรจะใช้ได้ภายในหนึ่งวันเท่านั้น” “เมื่อดวงอาทิตย์ตก ทุกๆสิ่งก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม”
แซมมีดมีตัวที่ใหญ่ขึ้นมาช้าๆ ทันใดนั้นตัวก็กลับมาเล็กเหมือนเดิม มันก็พูดว่า “ถูกต้อง” ครั้งหนึ่งมันจะกลับมาและกลับไปที่ก้นของหลุมทราย
เด็กๆได้ยืนอยู่ที่นั่นเป็นครั้งที่สอง จากนั้นแอนเธียได้กลับไปพูดกับคนอื่นๆอีกครั้ง แต่พวกเขาไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว! เธอกำลังมองไปที่คนแปลกหน้าทั้งสาม-เด็กผู้หญิงกับผมสีแดงที่สวยงามและตาสีฟ้าที่ใหญ่ และเด็กผู้ชายที่หล่อมากๆ 2 คน  ทันใดนั้นเธอก็จำได้ พวกเขาได้ตชคำอวยพรของพวกเขา คนแปลกหน้านั้นก็คือโรเบิร์ต ไซริลและเจน แต่ตอนนี้พวกเขาเป็นคนที่สวย ตอนนี้ผมของไซริลสีทองและผมของโรเบิร์ตสีดำ
โรเบิร์ตร้องกับน้องสาวและน้องชายของเขาอย่างโมโห “ฉันชอบคุณมากกว่าเมื่อก่อน” ผมของเจนเหมือนแครรอท และผมยาวสีทองของไซริลดูไม่น่าสนใจ
พวกเขาไปหาเด็กน้อย แต่เขาอยู่ที่ที่เขาอยู่เมื่อก่อน
แอนเธียพูดว่า “บางทีมันอาจเป็นเพราะว่าเขายังอ่อน เขาจึงไม่สามารถอวยพรได้ “พวกเราจะต้องจำได้ในตรั้งต่อไป” และเธอยื่นมือและแขนของเธอออกมา แต่ปากของเด็กน้อยปฏิเสธในสถานการณ์ที่ยากลำบากและเขาเริ่มร้องอย่างเสียงดัง เขาไม่รู้จักพวกเขา!
เขาอยุดร้องไปหนึ่งชั่วโมง เหนื่อยและโกรธมากๆ พวกเขาพาเด็กน้อยกลับบ้าน มาธาและหญิงเลี้ยงเด็กกำลังรออยู่หน้าประตู เธอรีบพาเด็กออกจากพวกเขาอย่างรวดเร็ว
เธอถามว่า “แล้วคนอื่นๆอยู่ที่ไหน” “คุณเป็นใคร”
โรเบิร์ตตอบว่า “พวกเราคือพวกเรา” “คุณไม่รู้จักพวกเราก็เพราะพวกเราสวย”
ไซริลพูดว่า “และพวกเราก็หิวมากๆ” “พวกเราต้องการอาหารกลางวันของพวกเรา”
มาร์ธาร้องตะโกน “ออกไปให้พ้น!” หรือไม่ “ฉันจะส่งไปให้ตำรวจ” และเธอปิดประตูต่อหน้าของพวกเขา
เด็กๆหิวมากๆและพวกเขาพยายามที่จะเข้าไปในบ้าน 3 ครั้ง  แต่มาร์ธาไม่อนุญาตให้พวกเขาเข้าไป  หลังจากนั้นขณะที่พวกเขาไปและนั่งที่พื้นของสวน เพื่อที่จะรอให้ดวงอาทิตย์ตก  เจนพูดว่า “คำอวยพรนี้จะจบลง มันจะไม่มีอีกแล้วใช่ไหม”
แต่คนอื่นๆก็ไม่ตอบเพราะว่าไม่มีใครแน่ใจเลย
มันน่าเบื่อมากในตอนบ่าย  พวกเขาไม่ได้กินอาหารกลางวัน ไม่มีน้ำชาและพวกเขาเหนื่อย โกรธและกลัว มันเป็นเรื่องจริงที่ว่าพวกเขาสวยมากๆ แต่สิ่งนั้นมันไม่ได้ช่วยได้มากเมื่อคุณไม่มีความสุข ตอนสุดท้ายพวกเขาก็หลับลง
มันใกล้จะค่ำแล้วตอนที่พวกเขาตื่นนอน แอนเธียเป็นคนแรกที่ตื่นขึ้นและเธอก็มองไปที่คนอื่นๆ พวกเขาไม่ได้สวยเลย ทุกๆสิ่งก็ลงตัวอีกครั้ง พวกเขากลับบ้านอย่างมีความสุข มาร์ธาโกรธและร้องว่า “พวกคุณไปอยู่ที่ไหนมาทั้งวัน”
มันยากที่จะเล่าเรื่องแซมมีดให้เธอฟัง ดังนั้นเด็กๆจึงไม่อธิบาย
แอนเธียพูดว่า “พวกเราได้พบเด็กที่หน้าตาสวย และพวกเราไม่สามารถหนีจากพวกเขาได้จนกว่ามันใกล้ค่ำ “พวกเขาน่ากลัว และพวกเราไม่ต้องการที่จะเห็นพวกเราอีกเลย”
                                                                (Second)
บทที่ 2
เด็กๆปรารถนาที่จะร่ำรวย

เช้าวันถัดไปมาร์ธาพาลูกน้อยออกไปข้างนอกกับเธอ และเด็กๆก็ตัดสินใจกลับไปที่บ่อกรวดเพื่อไปหาแซมมีดอีกครั้ง ตอนแรกพวกเขาหามันไม่เจอ โรเบิร์ตพูดว่า “มันอาจไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้วก็ได้” แต่พวกเขาก็รีบขุดทรายด้วยมือของพวกเขาและพวกเขามาที่แซมมีดอย่างรวดเร็ว  ซึ่งตัวของมันมีขนสีน้ำตาล มันลุกขึ้นนั่งและเขย่าทรายออกจากตัวของมัน
แอนเธียร์ถามว่า “ตอนนี้คุณสบายดีไหม”
แซมมีดตอบว่า “ฉันไม่ได้นอนเต็มที่ แต่ขอบคุณสำหรับคำถาม”
โรเบิร์ตพูดว่า “วันนี้คุณอวยรได้ไหม” “เพราะว่าพวกเราอยากได้คำอวยพร 2 ข้อถ้าหากพวกเราสามารถขอได้ แต่คำอวยพร 1 ข้อมันน้อยไปหน่อย!
แซมมีดพูดว่า “ตกลง มันกำลังมองไปที่โรเบิร์ตด้วยสายตาที่ยาวของมัน” “มีคำอวยพรข้อแรกที่จะให้”
โรเบิร์ตพูดว่า “มาร์ธาจะต้องไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคำอธิษฐาน” “ฉันหมายถึงว่าเธอจะต้องไม่เห็นสิ่งผิดปกติเกี่ยวกับพวกเรา และคุณสามารถให้พรได้ทุกวันใช่ไหม”
แซมมีดยืดตัวใหญ่ขึ้นและเล็กลงอีกครั้ง มันพูดว่า “ฉันได้ทำสิ่งนี้แล้ว” มันง่าย แล้วคำอธิษฐานต่อไปคืออะไร”
โรเบิร์ตพูดอย่างช้าๆว่า “พวกเราอยากมีเงินมากๆ”
แซมมีดถามว่า “คุณต้องการเงินมากเท่าไหร่” มันพูดอย่างเงียบๆกับตัวมันว่า “ฉันจะไม่ให้เงินที่มากกับพวกคุณ” “คุณต้องการทองหรือเงิน แล้วต้องการมากเท่าไหร่”
โรเบิร์ตพูดว่า “ ทอง หลายล้าน”

แซมมีดพูดอย่างน่าเบื่อว่า “บ่อกรวดบ่อใหญ่ ตกลงไหม” แต่ต้องออกไปก่อนที่ฉันจะเริ่ม หรือพวกคุณจะตายกับมัน”
แขนบางๆของมันก็ยาวขึ้นมากๆและมันเริ่มเคลื่อนไหวแขนของมัน เด็กๆจึงกลัวและวิ่งอย่างรวดเร็วเหมือนกับพวกเขาวิ่งบนถนน เมื่อพวกเขาอยู่ที่นั่นพวกเขาได้หันกลับไปดูข้างหลัง พวกเขาจะต้องปิดตาและเปิดตาของพวกเขาอย่างช้าๆอีกครั้ง” บ่อกรวดที่กว้างใหญ่ ทางด้านขวาขึ้นไปมีเหรียญอันใหม่ที่เปล่งประกาย!
เด็กๆยืนอยู่และปากของพวกเขาอ้าขึ้นและไม่มีใครพูดเลย
จากนั้นโรเบิร์ตหยิบเหรียญใส่มือของเขาและมองไปที่มัน เขาพูดว่า “มันช่างต่างกับเงินของอังกฤษ”
ไซริลพูดว่า “มันไม่ได้เป็นวัตถุทางกาย มันเป็นเหรียญทอง” อย่าลืมว่ามันจะหายไปตอนที่ดวงอาทิตย์ตก เข้ามา! ช่วยใส่เหรียญในกระเป๋าของพวกเราให้มากๆหน่อยและจะได้จ่ายมัน”
ดังนั้นพวกเขาทุกคนจึงใส่ทองไว้ในกระเป๋าของพวกเขาและออกจากหมู่บ้าน แต่ทองมีน้ำหนักมาก และในไมช้าพวกเขาก็เหนื่อยและร้อนมากๆ พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะหาบางสิ่งที่จะดื่มในหมู่บ้านและจากนั้นก็ไปเมืองโรเชสเตอร์
ไซริลเข้าไปในร้านค้าและคนอื่นๆก็รออยู่ด้านนอก แต่เมื่อ่ไซริลกลับมาพร้อมน้ำมะนาว 1 ขวด เขาพูดว่า “ฉันจะต้องจ่ายเงินของฉันจริงๆ เมื่อพวกขาเห็นเหรียญทั้งหมด  พวกเขาจะไม่เปลี่ยนไปเอาทอง”
แอนเธียร์พูดว่า “ฉันจะทดลองบางสิ่งกับทอง”พวกเราต้องการม้าและเกวียน นั้นตามมา”
แอนเธียร์ไปเพื่อพูดกับผู้ชายซึ่งมีม้าและเกวียน และคนอื่นๆก็รออยู่ หลังจากนั้นไม่กี่นาทีเธอก็กลับมา ดูเหมือนตัวเธอจะพอใจ เธอพูดว่า “ ฉันไม่ได้โง่เหมือนไซริลนะ” ฉันเพียงนำเหรียญออกมา 1 เหรียญ  ไม่ได้เอาเหรียญออกมาหมด และผู้ชายคนนั้นก็พูดว่าเขาจะพาพวกเราไปที่เมืองโรเชสเตอร์และรอพวกเรา”ในระหว่างทางไปเมืองโรเชสเตอร์ พวกเด็กๆไม่ได้พูดอะไร พวกเด็กๆกำลังวางแผนเกี่ยวกับว่าจะใช้ทองของพวกเขาได้อย่างไร พวกเด็กๆไม่ต้องการที่จะพูดกับคนขับที่อยู่ข้างหน้า


เมื่อพวกเขามาถึงเมืองโรเชสเตอร์และมีเหรียญทองอยู่112 เหรียญที่อยู่ในกระเป๋าของพวกเขา พวกเขาพบว่ามันยากมากที่จะจ่ายมัน แอนเธียร์พยายามซื้อหมวกที่สวยมากๆ แต่ผู้หญิงที่อยู่ในร้านมองมาอย่างแปลกมากๆ  มองมาที่เหรียญเป็นอย่างแรก จากนั้นก็มองไปที่แอนเธียร์
เธอพูดว่า “ฉันไม่สามารถทำเช่นนั้นได้”  “มันไม่ได้เป็นเงินอังกฤษสมัยใหม่”
พวกเขาจึงไปร้านค้าอื่น แต่ไม่มีใครต้องการทองของพวกเขาเลย แอนเธียร์พูดว่า “มันอาจเป็นเพราะมือของพวกเราสกปรกและพวกเราดูไม่เรียบร้อย ผู้คนจึงคิดว่าพวกเราขโมยทอง
และเป็นเรื่องที่แย่มาก เมื่อพวกเขาพยายามซื้อม้าและเกวียน ไซริลแสดงทองของเขากับผู้ชายและผู้ชายก็เรียกลูกชายของเขามา “ส่งไปให้ตำรวจ”
ไซริลพูดอย่างโกรธว่า “มันเป็นเงินของพวกเรา” “พวกเราไม่ได้ขโมยมา”
                ผู้ชายพูดว่า “คุณได้มันมาจากไหน”
                เจนพูดว่า “เทพธิดาแห่งสวรรค์ให้พวกเรามา” “เขาอวยพรให้พวกเรา 1 ข้อต่อ 1 วันและมันก็เป็นจริง”
                ผู้ชายสั่นศรีษะของเขาอย่างช้าๆและเขาพูดว่า “โอ้ ที่รัก ที่รัก” “ขโมยมาใช่ไหม นั้นเล่าเรื่องนี้หน่อย”
                จากนั้นตำรวจก็มาถึงและเมือ่พวกเขาได้ยินเกี่ยวกับเรื่องทอง พวกเขาพูดกับเด็กๆทั้ง4 คนว่า “มากับฉัน ฉันจะพาพวกคุณไปโรงพัก!
                เด็กๆโกรธและเสียใจมากๆ แต่ตำรวจเดินตามหลังพวกเขาไปตามถนน เด็กๆไม่สามารถหนีได้ พวกตำรวจจับศรีษะของเด็กๆลงเพราะว่าพวกเขาไม่อยากให้ใครเห็นพวกเขา และทันใดนั้นโรเบิร์ตวิ่งเข้ามาที่ใครคนหนึ่ง มีเสียงร้องว่า “โรเบิร์ต ตอนนี้คุณทำอะไรหรือ” พวกเขาคือมาธาร์และเด็กน้อยนั่นเอง!
                ตำรวจอธิบายทุกๆสิ่งกับมาร์ธา และไซริลก็ต้องนำทองออกจากกระเป๋าของเขาและแสดงทองให้มาร์ธาดู
                เธอพูดว่า “ฉันไม่เห็นอะไรเลย มือทั้งสองสกปรกมากๆ” “ไม่มีทองอยู่ที่นี่เลย” “คุณกำลังพูดเกี่ยวกับอะไรเนี่ย”
                และหลังจากนั้นเด็กๆก็จำได้ว่ามาร์ธาไม่สามารถเห็นคำอวยพรได้
                มันเป็นเรื่องเศร้าเมื่อพวกเด็กๆไปถึงโรงพัก ตำรวจอธิบายเกี่ยวกับเรื่องทองและสารวัตรพูดว่า “นั้นขอดูหน่อย”
                ไซริลล้วงมือของเขาเข้าไปในกระเป๋าของเขา มันก็ว่างเปล่าเช่นกัน ทองของเทพธิดาทั้งหมดได้หายไปในตอนที่ดวงอาทิตย์ตก!
                ตำรวจร้องว่า “พวกเขาทำสิ่งนั้นได้อย่างไรเนี่ย”
                มาร์ธาโกรธตำรวจมากๆ เธอตะโกนว่า “ฉันบอกคุณแล้วว่าไม่มีทองอยู่เลย” “คุณจะมีปัญหาเรื่องนี้ ที่พูดว่าเด็กๆที่น่าสงสารเหล่านี้เป็นขโมย!
                แต่เธอก็โกรธเด็กๆมาก เธอพูดกับเด็กๆข้างนอกโรงพักว่า “พวกคุณกำลังทำอะไรในเมืองโดยลำพัง”
                และเธอก็พาเด็กๆกลับบ้านและส่งพวกเขาเข้านอนตั้งแต่ก่อนค่ำ
บทที่ 3
ปีก
            วันถัดไปเป็นวันที่ฝนตกหนักมาก ฝนตกทั้งวันและเด็กๆก็ไม่สามารถไปหาแซมมีดได้ พวกเขาจึงอยู่บ้านและเขียนจดหมายถึงแม่ของพวกเขา แต่ไม่มีเด็กๆคนไหนเลยที่เล่าเรื่องของแซมมีดกับแม่ และหลังจากวันนั้นริชาร์ดซึ่งเป็นลุงของพวกเด็กๆมาและพาพวกเขาออกไปข้างนอก ดังนั้นพวกเขาไม่ได้เห็นแซมมีดเป็นเวลา 2 วัน แต่แอนเธียร์ใช้เวลามากในการคิดเกี่ยวกับสิ่งที่อธิษฐาน
                เช้าวันถัดไปขณะที่มาร์ธายุ่งอยู่กับเด็กน้อย เด็กๆก็ออกจากบ้านอย่างเงียบๆและไปหาแซมมีด ในระหว่างทางไปที่นั่น แอนเธียร์พูดกับคนอื่นๆว่า “ฉันรู้ว่าพวกเราจะขอพรอะไร – ปีก!
                คนอื่นๆก็เงียบชั่วขณะ แต่จากนั้นพวกเขาทั้งหมดก็เห็นด้วยว่าพวกเขาต้องการมีปีก
                พวกเขาจะได้ไปหาแซมมีดอย่างสบาย แอนเธียร์พูดว่า “ฉันอธิษฐานให้พวกเราทุกคนมีปีกที่สวยงามไว้บิน”
                แซมมีดทำตัวของมันให้ใหญ่ขึ้นมากๆและจากนั้นก็กลับมาเล็กลงอีกครั้ง เด็กๆรู้สึกแปลกๆชั่วขณะและเมื่อพวกเขามองไป พวกเขาก็เห็นว่าพวกเขามีปีกนุ่มสวยงาม มีหลากหลายสี พวกเขาขยับปีกไปมาและกระโดดขึ้นลงและไม่นานพวกเขาก็สามารถเห็นทุ่งหญ้าสีเขียวและป่าที่เต็มไปด้วยแสงแดดที่อยู่ด้านล่างของพวกเขา ท้องฟ้าสีฟ้าที่อยู่ด้านบน พวกเขาสามารถบินได้! มันมหัศจรรย์และพวกเขาบินอยู่เหนือป่าและต้นไม้ ผ่านเมืองและหมู่บ้านเป็นเวลานาน แต่พวกเขาเริ่มหิว
                จากนั้นพวกเขาจึงเห็นต้นที่เต็มไปด้วยลูกพลัมสีแดงขนาดใหญ่อยู่ด้านล่างของพวกเขา ไซริลจึงพูดว่า “พวกเราจะต้องไม่ขโมยนะ”
                เจนตอบอย่างรวดเร็วว่า “พวกเรามีปีกแล้ว” “ดังนั้นพวกเราเป็นนก” มันแน่นอนอยู่แล้วสำหรับนกในการที่จะทำสิ่งต่างๆ นกไม่สามารถขโมยได้
                ดังนั้นพวกเขาจึงบินไปที่ต้นไม้และพวกเขาก็กินลูกพลัมมากเท่าที่พวกเขาจะกินได้
                พวกเขากินลูกพลัมเสร็จขณะที่พวกเขาเห็นชายตัวอ้วนเล็กน้อยโกรธมากๆ ซึ่งเป็นผู้ที่รีบไปที่ต้นพลัม มันเป็นลูกพลัมของเขาและชายที่น่าสงสารนี้คิดว่าเด็กผู้ชายจากหมู่บ้านขโมยลูกพลัมไป แต่เมื่อเขาเห็นว่าเด็กๆมีปีก ปากของเขาถึงกับอ้าขึ้นและหน้าของเขาก็เริ่มเขียว แอนเธียร์ไม่ต้องการที่จะขโมยสิ่งใดเลยอย่างแน่นอน ดังนั้นเธอจึงบินลงมาและดันเงินเข้าไปในกระเป๋าของชายคนนั้น
                แอนเธียร์พูดว่า “อย่ากลัวไปเลย” “พวกเรามีลูกพลัมของคุณ พวกเราคิดว่ามันไม่ได้ถูกขโมยไปหรอก แต่ตอนนี้ฉันไม่แน่ใจสำหรับเงินที่จ่ายค่าลูกพลัม”
                ชายตัวเล็กจึงนั่งลงบนพื้นดินและมองขึ้นไปบนท้องฟ้า “ นกกำลังพูด! เด็กๆมีปีก! นี้เป็นบทเรียนสำหรับฉัน เขาพูดว่า “จากนี้เป็นต้นไปฉันจะมีชีวิตที่ดี และเขาก็เข้าไปในบ้านและเอาอกเอาใจภรรยาของเขา
                ลูกพลัมเยี่ยมมากๆเลย  แน่นอนแต่ไม่นานคุณจะรู้สึกหิวอีก ดังนั้นเด็กๆจึงหยุดที่บ้านหลังนี้เป็นหลังแรกและบ้านหลังอื่นๆเพื่อหาของกิน พวกเขาไม่ได้กินอะไรเลยเพราะว่าทุกคนกลัวพวกเขาและตะโกนร้องและวิ่งหนีเมื่อพวกเขาเห็นเด็กๆ ก่อนเวลา 16 นาฬิกาเด็กๆเหนื่อยและหิวมากๆ ดังนั้นพวกเขาจึงบินลงมาที่หลังคาโบสถ์เพื่อคิดที่จะทำบางสิ่ง
                โรเบิร์ตพูดว่า “เป็นไปได้ที่พวกเราไม่สามารถบินไปยังบ้านทุกๆหลังโดยไม่มีอาหารกิน
                สุดท้ายพวกเขาก็ตัดสินใจที่จะนำอาหารมาจากบ้านของไวการ์ซึ่งอยู่ถัดจากโบสถ์
                ไซริลพูดว่า “เขาเป็นผู้ชายที่ดี เขาจะเข้าใจ พวกเราจะมอบเงินให้เขาสำหรับค่าอาหาร” “และพูดสั้นๆว่า พวกเราขอโทษ”
                                ไซริลได้รับอาหารทางหน้าต่างและเขาส่งอาหารให้คนอื่นๆที่อยู่ด้านนอก มีเนื้อแช่แข็ง ไก่แช่แข็งครึ่งซีก ขนมปังและน้ำโซดา 1 ขวด จากนั้นพวกเขาทั้งหมดจึงบินกลับขึ้นไปบนหลังคาโบสถ์เพื่อที่จะกินอาหาร พวกเขาหิวมากๆ ดังนั้นพวกเขาจึงสนุกกับการกินอาหารจริงๆ  แต่เมื่อคุณหิวมากๆจากนั้นคุณกินอาหารมื้อหนักและนั่งบนหลังคาที่มีแสงแดดร้อนมากๆ มันง่ายมากที่จะหลับ ดังนั้นพวกเขาจึงหลับขณะที่ดวงอาทิตย์กำลังตกลงช้าๆทางทิศตะวันตก
                พวกเขาหลับเป็นเวลานาน เมื่อพวกเขาตื่นขึ้นมามันก็มืดแล้วและพวกเขาก็ไม่มีปีก
                ไซริลพูดว่า “พวกเราจะต้องกลับบ้าน” “มีประตูอยู่ตรงนั้น นั้นเป็นทางที่จะลงไป”
                แต่เมื่อพวกเขาลองเข้าไปในประตู พวกเขาพบว่าประตูปิดอยู่ทางด้านอื่น พวกเขาอยู่บนสุดของโบสถ์และพวกเขาไม่มีปีก! พวกเขาจะลงไปได้อย่างไร
                แอนเธียร์เอาแขนของเธอไปกอดรอบๆตัวเจนผู้ซึ่งเริ่มร้อง แอนเธียร์พูดว่า “มันจะเป็นแค่คืนนี้คืนเดียว”
                จากนั้นไซริลพูดว่า “ฉันรู้ นั้นช่วยตะโกนหน่อย! แสงไฟในบ้านของไวการ์ มีบางคนได้ยินพวกเราและพาพวกเราลงไป”
                ดังนั้นพวกเขาจึงตะโกนและร้องเสียงดังเท่าที่พวกเขาจะสามารถร้องได้ และคนในบ้านจึงได้ยินเสียงของเด็กๆ ไวการ์และคนรับใช้ของพวกเขาวิ่งออกมา
                ไวการ์พูดอย่างน่ากลัวว่า “ มีบางคนกำลังทำร้ายใครบางคนอยู่ในโบสถ์!” “บางทีมันอาจเป็นโจรผู้ที่ขโมยไก่แช่แข็งและอาหารอื่นๆก็ได้นะ”
                แต่พวกเขาไม่สามารถเข้าใจได้ว่าทำไมเสียงมาจากท้องฟ้า ดังนั้นเด็กๆจึงร้องตะโกนว่า “พวกเราขึ้นมาที่นี่ – ด้านบนของโบสถ์!
                ผู้ชายทั้งสองคนยังคงกลัวอยู่ แต่พวกเขาก็ขึ้นบรรไดด้านในของโบสถ์อย่างช้าๆและระมัดระวัง เมื่อพวกเขาทั้งสองขึ้นมาด้านบน ไวการ์ตะโกนผ่านประตูที่ปิดอยู่ว่า “พวกคุณมีกี่คน พวกคุณมีปืนหรือไม่”
                ไซริลตอบว่า “พวกเรามี 4 คนและพวกเราก็ไม่มีปืน”
                ไวการ์เปิดประตูอย่างช้าๆ
เขาร้องว่า “สวรรค์ช่างดีเหลือเกิน” “พวกเขาเป็นเด็ก”
                เจนร้องว่า “โอ้ ช่วยพาเราลงไปที”
                ดังนั้นไวการ์และคนรับใช้ของเขาลงมาและเข้าไปในบ้านของพวกเขา แน่นอนไวการ์ต้องการที่จะรู้ว่าทำไมเด็กๆจึงอยู่บนหลังคาโบสถ์
                ไซริลพูดว่า “พวกเราขึ้นไปที่นั่นเพราะว่าพวกเราต้องการที่จะดูว่ามันคืออะไร” “แต่หลังจากนั้นพวกเราก็ไม่สามารถลงมาได้เพราะประตูปิดอยู่” เขาไม่ได้เล่าอะไรเกี่ยวกับปีก
                ไวการ์ถามว่า “แล้วใครล่ะที่ล็อคประตู”
เจนตอบว่า “พวกราไม่รู้” “แต่พวกเราไม่ได้บอกคุณทุกเรื่อง”
คนรับใช้ของไวการ์ผู้ซึ่งถูกเรียกว่า บีล พูดว่า “ฮ่า! มีเพื่อนคนหนึ่ง”
แอนเธียร์กำลังคิดถึงแซมมีดและพูดว่า “พวกเรามาสามารถบอกคุณเกี่ยวกับมันได้” “พวกเราเสียใจจริงๆและตอนนี้พาพวกเรากลับบ้านได้ไหม”
                ไวการ์ก็ยังคงไม่เข้าใจแต่เขาเป็นผู้ชายที่ใจดี ดังนั้นเขาจึงส่งเด็กๆกลับบ้านโดยให้นั่งเกวียนไปกับคนรับใช้ของเขา มาร์ธาโกรธพวกเด็กๆมากๆ แต่บีลอธิบายทุกๆสิ่งเป็นอย่างดี เขาเป็นชายหนุ่มที่มองโลกในแง่ดีและยิ้มสวย และหลังจากนั้นมาร์ธาลืมความโกรธ
ดังนั้นมันเป็นวันที่มีความสุข

(Third)
บทที่4
ใหญ่กว่าลูกชายของคนทำขนมปัง
            เช้าวันถัดไป มาร์ธาพูดว่าเด็กๆไม่สามารถออกไปข้างนอกได้ เธอพูดว่า “พวกคุณสามารถอยู่ในบ้านและมีความสุขได้”
                โรเบิร์ตพูดว่า “มีบางสิ่งที่พวกเราทุกคนอยากได้” “ฉันสามารถออกไปหามันประมาณชั่วโมงครึ่งได้ไหม” มาร์ธาผู้ซึ่งใจดีจริงๆและเธอก็บอกว่าเขาสามารถไปได้
                แน่นอน พวกเขาทุกคนต้องการคำอวยพรใน1 วัน ดังนั้นโรเบิร์ตจึงรีบไปที่บ่อทราย
                แซมมีดกำลังรอพวกเขาอยู่ แต่เมื่อโรเบิร์ตพยายามที่จะนึกถึงคำอธิษฐานที่ดีจริงๆเขาไม่สามารถนึกได้และคนอื่นๆก็ไม่ได้อยู่ที่นั่นเพื่อช่วยเขาคิด
                แซมมีดพูดว่า “เร็วๆเข้า” “ฉันมาสามารถรอได้ทั้งวันนะ”
                โรเบิร์ตพูดว่า “โอ้ ที่รัก” “ฉันอธิษฐานให้พวกเราไม่ต้องมาที่นี่เพื่อขอพรของพวกเราอีก...โอ้ ไม่นะ!
                แต่มันก็สายเกินไปแซมมีดได้ทำตัวของมันให้ใหญ่ขึ้นเรียบร้อยแล้ว
                มันพูดว่า “นั่นไง!” “สิ่งนั้นมันไม่ง่ายเลยแต่ฉันก็ได้ทำไปแล้ว พวกคุณไม่ต้องการที่จะมาที่นี่เพื่อขอพรของพวกคุณ”
                โรเบิร์ตพูดขอบคุณแซมมีด และจากนั้นเขาก็รีบกลับไปบอกเด็กๆคนอื่นๆ เขาพูดว่า “พวกเราจะต้องอธิษฐานในสิ่งที่ดีจริงๆในวันพรุ่งนี้”
                เช้าวันถัดไป พวกเขาได้แต่คิดแล้วก็คิด แต่พวกเขามาสามารถนึกถึงคำอธิษฐานที่ดีได้จริงๆ ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจที่จะไปที่บ่อทราย ทันใดนั้นพวกเขาก็เห็นลูกชายของคนขายขนมปังผู้ซึ่งกำลังเดินมาตามถนนพร้อมกับตะกร้าขนมปังของเขา และพวกเด็กๆก็เลือกที่จะแกล้งเด็กคนนั้น
                ไซริลร้องว่า “หยุดนะ”
                โรเบิร์ตตะโกนว่า “เงินหรือชีวิตของคุณ!
                และพวกเขายืนอยู่ด้านข้างของลูกชายของคนทำขนมปัง
                ลูกชายขอคนทำขนมปังผู้ซึ่งตัวสูงและใหญ่ ดูไม่น่าสนใจมากนักและเขาก็ผลักเด็กๆทั้ง2 คนออกไป
                เขาพูดว่า “อย่าโง่ไปหน่อยเลย”
                แต่โรเบิร์ตดึงเขากลับมาและต่อยเขาอย่างแรง ขนมปังตกลงมาจากตะกร้าของเด็กผู้ชายและหล่นลงบนถนน ลูกชายของคนทำขนมปังโกรธมากๆ เขาจึงต่อยโรเบิร์ตและเด็กๆทุกคนก็เริ่มที่จะต่อสู้ แต่ลูกชายขอคนทำขนมปังตัวใหญ่และแข็งแรงมากกว่าโรเบิร์ต เขาไม่ใช่นักสู้ที่ดี่นัก เขาดึงผมของโรเบิร์ต เตะขาและต่อยไปที่ท้องของโรเบิร์ตอย่างแรง จากนั้นเขาก็ยกขนมปังขึ้นและใส่ขนมปังลงในตะกร้าและเดินไปตามทางของเขา
                ไซริลต้องการที่จะช่วยโรเบิร์ต แต่เด็กผู้หญิงได้จับแขนและห้ามเขาเอาไว้ ดังนั้นไซริลจึงโกรธเด็กผู้หญิงและทุกคนก็ไม่มีความสุข พวกเขาไปที่บ่อกรวดและโรเบิร์ตเริ่มเตะทรายอย่างโมโห
                โรเบิร์ตพูดว่า “สักวันหนึ่ง ฉันจะสั่งสอนลูกชายขอคนทำขนมปังคนนั้น ฉันอยากมีตัวที่ใหญ่กว่าเด็กผู้ชายคนนั้น!”
                จากนั้นเด็กๆเห็นว่าแซมมีดกำลังนั่งอยู่หลังพวกเขาและกำลังมองพวกเขาอยู่!
                ไม่กี่นาที โรเบิร์ตเป็นไปตามคำอธิฐานของเขา เขาตัวใหญ่มากกว่าลูกชายขอคนทำขนมปัง ใหญ่กว่ามากๆ!ตอนนี้เขาสูงมากกว่า 3 เมตร! เขาไม่พอใจเพราะเขาดูประหลาดมากๆเมื่อเขาอยู่ข้างคนอื่นๆซึ่งตัวเล็ก
                เด็กๆคนอื่นๆก็รู้สึกเสียใจกับเขาและถามแซมมีดสำหรับคำอธิษฐานอื่นๆ แต่แซมมีดโกรธและเศร้ามากๆ มันพูดว่า “ทำไมพวกคุณต้องคิดก่อนที่จะอธิษฐาน” “โรเบิร์ตเป็นเด็กผู้ชายที่รุนแรงและมีเสียงดัง และเขาสามารถที่จะอยู่อย่างนี้ได้ตลอดทั้งวัน มันจะทำให้โรเบิร์ตดูดี ตอนนี้เขาหนีไปและปล่อยให้ฉันอยู่ลำพัง!
                เด็กๆคนอื่นๆกลับมาที่น้องชายที่ร้ายกาจของพวกเขา เด็กๆถามว่า “พวกเรากำลังทำอะไรอยู่”
                ครั้งแรก โรเบิร์ตพูดว่า “ฉันกำลังจะแก้แค้นลูกชายของคนขายขนมปัง!” และเป็นเพราะว่าเขามีขาที่ยาวมากๆ เขาจึงไปถึงพื้นของหุบเขาก่อนลูกชายของคนทำขนมปังผู้ซึ่งกำลังหยุดอยู่ที่บ้านตามถนนเพื่อที่จะเอาขนมปังไปส่ง
                โรเบิร์ตอยู่ด้านหลังของกองหญ้ากองใหญ่และรอเด็กผู้ชายอยู่ เมื่อเขาเห็นเด็กผู้ชายกำลังเดินมา เขาจึงกระโดดออกมาทางด้านหลังของกองหญ้ากองใหญ่ และปากลูกชายของคนขายขนมปังอ้าขึ้นอย่างตกใจ จากนั้นโรเบิร์ตจึงจับเด็กผู้ชายใส่บนกองหญ้ากองใหญ่
                โรเบิร์ตพูดว่า “ตอนนี้ลงมาจากที่นี่ ถ้าคุณสามารถทำได้!เมื่อลูกชายของคนทำขนมปังกลับไปที่ร้านค้าและคนทำขนมปังก็โกรธมากๆ!
                จากนั้นโรเบิร์ตและคนอื่นๆกลับบ้านและลงไปที่สวน แอนเธียร์ขอร้องให้มาร์ธาเอาอาหารเที่ยงของพวกเขาออกมาจากที่นั่น เธอรู้ว่าโรเบิร์ตตัวใหญ่มากๆที่จะเข้าไปในบ้าน แน่นอนมาร์ธาไม่สามารถดูว่าโรเบิร์ตใหญ่มากกว่าเมื่อก่อน และเธอแค่ให้เนื้อสัตว์และมันฝรั่งกับเขามากกว่าปกติและไม่ให้มากกว่านั้น โรเบิร์ตเด็กที่น่าสงสารหิวมากๆ
                คนอื่นๆก็รู้สึกว่าไม่มีความสุขเช่นกัน เพราะมีงานในเมืองและพวกเขาต้องการที่จะไปที่นั่น ไซริลพูดว่า “ตอนนี้พวกเขาไม่สามารถไปไหนได้ทั้งนั้นถ้าโรเบิร์ตยังเป็นแบบนี้”
                เจนร้องอย่างทันทีว่า “ฉันรู้!  นั้นช่วยพาโรเบิร์ตไปงานหน่อย! บางคนที่นั่นอาจจะจ่ายเงินให้พวกเราเพื่อให้พวกเราแสดงให้คนดู พวกเราสามารถหาเงินได้เยอะเลย”
                คนอื่นๆก็คิดว่าสิ่งนี้เป็นการวางแผนที่ดีและพวกเขาออกไปในตอนนั้น เมื่อพวกเขามาถึง พวกเขาถามหัวหน้า ชื่อของเขาคือบิลและเมื่อเขาเห็นโรเบิร์ตเขาก็ตื่นเต้นมากๆ
                หัวหน้าถามว่า “พวกคุณต้องการเงินมากแค่ไหน”
                โรเบิร์ตพูดว่า “คุณไม่สามารถซื้อฉันได้” “แต่ฉันจะมาเพื่อแสดงตัวเองในตอนบ่ายนี้ ถ้าคุณให้เงินฉัน 15 ปอนด์และให้อาหาร
                บิลเห็นด้วย “ถูกต้อง”
                ดังนั้นบิลพาโรเบิร์ตเข้าไปในเต็นท์ขนาดใหญ่ในงานและให้อาหารเขากิน แต่ขณะที่โรเบิร์ตกำลังกินอาหารอยู่ บิลก็พาผู้ชายเข้าไปด้านในเพื่อคุมไม่ให้โรเบิร์ตหนี
                จากนั้นบิลก็ไปยืนอยู่ข้างนอกเต็นท์และเริ่มร้องตะโกนไปที่กลุ่มคนว่า “มานี่ มาดูผู้ชายที่ตัวใหญ่ที่สุดในโลก!
                ไม่นาน ผู้คนก็เริ่มหยุดและฟังเสียงเขา  ชายหนุ่มและแฟนของเขาไปที่นั่นเป็นคนแรกและมองไปที่โรเบิร์ต พวกเขาจ่ายเงินของพวกเขาให้บิลและเข้าไปข้างใน ผู้หญิงที่อยู่ด้านนอกได้ยินเสียงกรีดร้องของเด็กผู้หญิง และทุกคนก็ต้องการที่จะไปดูด้วย
                ไม่นานโรเบิร์ตกลายเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นมากที่สุดในงานและบิลได้รับเงินเป็นจำนวนมาก ไซริลพูดกับเด็กผู้หญิงว่า “เงินเกิน 15 ปอนด์แล้ว!
                โรเบิร์ตผู้น่าสงสารน่าเบื่อมากๆ เขาจะต้องสั่นมือของเขาและพูดับทุกคน เพื่อที่จะแสดงให้เขาดูสมจริง และเขาก็สามารถที่จะหนีไปในตอนเย็นได้อย่างไร” โรเบิร์ตพูดว่า “พวกเขาจะฆ่าพวกเราถ้าฉันหมดแรงอีกครั้ง”
                ไซริลใช้เวลาคิดเพียงนิดเดียว จากนั้นเขาพูดว่า “ฉันได้วางแผนไว้แล้ว” และเขาออกไปนอกเต็นท์เพื่อที่จะพูดกับบิล เขาพูดว่า “ดูนั่นสิ” “น้องชายของฉันจะต้องอยู่อย่างลำพังเมื่อดวงอาทิตย์ตก เขาดูแปลกๆและฉุนฉียวมากๆ ฉันไม่รู้ว่าทำไม แต่คุณจะต้องปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวหรือเขาอาจจะทำร้ายบางคนก็ได้”
                บิลไม่มีความสุขเลยกับเรื่องแบบนี้แต่เขาก็รับได้ แต่เมื่อดวงอาทิตย์ตกพวกเด็กๆก็ปล่อยให้โรเบิร์ตอยู่คนเดียว โรเบิร็ตจึงออกทางด้านหลังใต้เต็นท์อย่างรวดเร็วและไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใคร เพราะเขาเพิ่งจะเป็นเด็กผู้ชายที่มีตัวเล็กอีกครั้ง
                เด็กๆทุกคนจึงวิ่งไปบ้านและพวกเขาก็ไม่รู้ว่าบิลจะพูดอะไรเมื่อไม่เจอโรเบิร์ตที่นั่น!
(Fourth )
บทที่ 5
คำอธิษฐานสุดท้าย
วันถัดไปมีจดหมายฉบับหนึ่งเขียนว่าแม่ของพวกเด็กๆกำลังมาบ้านช่วงบ่ายนี้ ดังนั้นเด็กๆเลือกที่จะขอพรบางสิ่งสำหรับแม่ของพวกเขา พวกเขาวุ่นวายกับการพยายามที่จะคิดถึงบางสิ่งเมื่อมาร์ธาเข้ามาในห้อง ซึ่งตื่นเต้นมาก
มาร์ธาพูดว่า “มีขโมยมาที่เลดี้ ชิดเทนเดนท์เมื่อคืนที่ผ่านมา” “พวกเขาขโมยเพชรพลอยทั้งหมดของเธอไป! เธอมีเพชรจำนวนมาก ฉันได้ยินมาว่า “พวกเขาเสียเงินไปหลายพันปอนด์”
โรเบิร์ตพูดว่า “เมื่อฉันโตขึ้น ฉันจะซื้อเพชรพลอยของแม่เหมือนอย่างนั้น”
เจนพูดว่า “ตอนนี้ ฉันอยากให้แม่ของฉันมีร้านเพชรพลอยที่สวยงามที่ชื่อว่าเลดี้ ชิดเทนเดนท์ทั้งหมด” “ฉันอธิษฐานให้แม่มี”
โรเบิร์ตพูดว่า “ก็ดี เธอจะมีสิ่งเหล่านั้น” “คุณได้อธิษฐานแล้ว!” ทุกคนจะคิดว่าเธอขโมยสิ่งเหล่านั้นมา! พวกเราจะพยายามหาแซมมีดและถามมันเพื่อที่จะนำคำอธิษฐานกลับมา”
พวกเขาจึงรีบลงไปที่บ่อกรวด แต่พวกเขาไม่สามารถหาแซมมีดได้ ดังนั้นพวกเขาจึงรีบกลับบ้านอีกครั้งและมองเข้าไปในห้องของแม่ของพวกเขาเพื่อดูเพชรพลอย แต่พวกเขาไม่เจออะไรที่นั่นเลย
แอนเธียร์พูดว่า “ดี พวกเราจะบอกแม่เกี่ยวกับแซมมีด และเธอจะให้เพชรกลับมา เมื่อพวกเขามา”
ไซริลสั่นหัวของเขาอย่างช้าๆ “เธอจะไม่เชื่อพวกเรา” “ทุกๆคนก็สามารถเชื่อในเรื่องแซมมีดหรือไม่พวกเขาไม่เห็นมันเลย” และผู้ใหญ่ก็ไม่เคยเชื่อ่ในสิ่งนั้นเลย  ไม่ เธอจะคิดว่าพวกเราเป็นขโมยและพวกเราทั้งหมดไปที่คุกและทุกๆสิ่งจะน่ากลัว!
และตอนบ่ายนั้น เมื่อแม่มาที่บ้านเด็กๆก็วิ่งมาที่เธอและเอาแขนของพวกเขาไปกอดรอบๆเธอ และพยายามที่จะห้ามเธอที่จะเดินไปชั้นบนของห้องของเธอ
แม่ร้องและหัวเราะ แต่ฉันจะต้องถอดเสื้อนอกของฉัน และซักด้วยมือของฉัน! “และเธอก็ขึ้นไปที่ห้องของเธอ
เด็กๆขึ้นไปหลังจากเธอ บนโต๊ะมีกล่องสีเขียว แม่เปิดมันออกมา
แม่ร้องว่า “โฮ้ ทำไมมันสวยงามอย่างนี้”
มันเป็นแหวน แหวนเพชรที่สวยงาม
แม่พูดว่า “บางทีมันอาจจะเป็นของขวัญที่แปลกๆจากพ่อ” “แต่มันอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”
แต่จากนั้นเธอก็พบสร้อยคอเพชรเส้นหนึ่ง เข็มกลัดและกำไลข้อมือ มีเพชรในทุกๆตู้ในห้องของเธอ เด็กๆก็เริ่มดูเหมือนไม่มีความสุขและเจนก็เริ่มร้องไห้
แม่ก็ไม่ได้ยิ้มนานนัก เธอพูดอย่างช้าๆว่า “เจน คุณรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้าง” “มันเป็นเรื่องจริง”
เจนพูดว่า “แม่ พวกเราเจอเทพธิดาห่งทราย”
แม่พูดอย่างโมโหว่า “เจน เธออย่าโง่ไปหน่อยเลย”
ไซริลพูอย่างทันทีว่า “ขโมยบางคนขโมยเพชรพลอยทั้งหมดของLady Chittenden’s  จากบ้านของเธอเมื่อคืนที่ผ่านมา” “บางทีสิ่งนี้อาจจะเป็นเพชรพลอยของเธอ”
แม่เรียกมาร์ธาและถามเธอว่า “มีคนแปลกหน้าเข้ามาในห้องนี้ไหม”
มาร์ธาตอบอย่างกลัวว่า “ใช่ แต่มันเป็นชายหนุ่มของฉันเอง” “เขากำลังย้ายตู้ที่หนักให้ฉัน” (ใช่เลย มิสเตอร์บีล ชายหนุ่มที่เป็นคนรับใช้ของไวการ์ ผู้ซึ่งเป็นมิตรกับมาร์ธามากในตอนนี้)
ใช่เลย แม่คิดว่าเขาเป็นหนึ่งในขโมย เธอจะไม่ฟังเด็กๆและเลือกที่จะไปที่เมืองเมืองหนึ่งเพื่อที่จะบอกตำรวจ เด็กๆมาสามารถห้ามเธอได้
แอนเธียร์พูดว่า “มันเป็นสิ่งที่แย่” “มาร์ธาผู้น่าสงสาร!และบีลผู้ยากจน พวกเขาไม่ใช่ขโมย! พวกเรากำลังจะทำอะไรกัน” จากนั้นเธอร้องว่า “มานี่ พวกเราจะต้องหาแซมมีดให้เจอ!
พวกเราทั้งหมดลงไปที่บ่อกรวด และเวลานี้พวกเขาเจอแซมมีด กำลังนั่งอยู่บนทรายและกำลังสนุกกับดวงอาทิตย์ในตอนเย็น เมื่อมันเห็นพวกเด็กๆ มันก็พยายามที่จะออกมา แต่แอนเธียร์เอามือของเธอกอดไปรอบๆตัวของมัน เธอก็เริ่มพูดว่า “ที่รัก แซมมีดผู้ใจดี...”
มันพูดว่า “โอ้ คุณต้องการบางสิ่งใช่หรือไม่”
แอนเธียร์ถามว่า “คุณจะไม่ให้คำอวยพรแล้วหรือ”
มันพูดว่า “ไม่นะ ฉันไม่....” “ออกไปและปล่อยฉันให้อยู่ลำพังเถิด!
แต่แอนเธียร์เดินนำหน้า เธอพูดว่า “ฟังฉัน” “ถ้าคุณทำในสิ่งที่พวกเราต้องการวันนี้ พวกเราจะไม่ขอร้องคุณสำหรับคำอธิษฐานอื่นๆอีก”
มันพูดว่า “ฉันจะทำสิ่งต่างๆสำหรับสิ่งนี้” “ฉันไม่ชอบจริงๆกับการอวยพร มันเป็นงานที่หนักมากๆ คุณรู้และฉันก็เหนื่อยมากๆ”
ครั้งแรกฉันอธิษฐานว่า “เลดี้ ชิดเทนเดนท์จะรู้ว่าเธอไม่เคยทำเพชรพลอยของเธอหายเลย”
มันพูดว่า “จัดการเลย” แซมมีดตัวใหญ่ขึ้นและจากนั้นก็กลับมาตัวเล็กอีกครั้ง “ฉันอธิษฐานว่าแม่จะไปถึงตำรวจ”
แซมมีดพูดอีกครั้งว่า “จัดการ!
เจนพูดขึ้นมาทันทีว่า “และฉันก็อธิษฐาน” “อธิษฐานว่าแม่และมาร์ธาจะลืมเรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับเพชรพลอย!
แซมมีดพูดว่า “จัดการ” แต่เสียงของมันเหนื่อย “ตอนนี้” มันเดินนำหน้าไป “คุณจะอวยพรให้ฉันใช่ไหม”
ไซริลถามว่า “คุณไม่สามารถที่จะให้คำอวยพรของคุณแล้วใช่ไหม”
แซมมีดตอบว่า “แน่นอน ไม่ให้” “อยากให้คุณไม่บอกใครเลยเกี่ยวกับเรื่องของฉัน”
โรเบิร์ตถามว่า “ทำไม”
“เด็กๆมักจะถามในสิ่งที่ไร้สาระ แต่ผู้ใหญ่ไม่ได้เหมือนเด็ก ถ้าพวกเขาได้จับฉัน พวกเขาจะต้องการคำอวยพรที่เป็นจริง มันเป็นสิ่งสำคัญ เหมือนบ้านที่อิสระสำหรับคนจน และโรงเรียนใหม่สำหรับเด็กๆทุกๆที่ในชนบท และเงินที่จะจ่ายให้คนชราเป็นสิ่งที่น่าเบื่อมาก และพวกเขาจะหาวิธีที่จะดูมันหลังจากที่ดวงอาทิตย์ตก และจะเกิดอะไรขึ้นกับโลกถ้าทุกสิ่งเหล่านี้เปลี่ยนแปลงไปอีกครั้งหนึ่ง ที่นั้นจะเป็นปัญหาแย่มาก นั้นไปอธิษฐานกันเถอะ เร็วๆ!
แอนเธียร์ขอคำอธิฐานจากแซมมีด และมันก็ให้พรที่สำคัญมากๆ เมื่อมันตัวเล็กอีกครั้งมันพูดว่า “ตอนนี้ฉันเหนื่อยมากๆ คุณต้องการคำอธิษฐานสุดท้าย1ข้อใช่หรือไม่”
เจนพูดว่า “ขอบคุณสำหรับทุกๆสิ่ง” “นอนหลับนานๆและฉันอธิษฐานว่าพวกเราเห็นคุณอีกครั้งในวันใดวันหนึ่ง”
จากนั้นเวลาผ่านไป แซมมีดตัวใหญ่ขึ้น จากนั้นก็ตัวเล็กอีกครั้ง มันมองไปที่พวกเด็กๆทุกคนครั้งหนึ่งกับสายตาที่ยาวของมัน และจากนั้นมันก็ใช้ตัวของมันขุดทรายอย่างรวดเร็ว
และเมื่อพวกเด็กๆกลับมาถึงบ้านอีกครั้ง ทุกๆสิ่งก็ลงตัว แม่มาที่บ้าน เธอและมาร์ธาจำอะไรไม่ได้เลย และเลดี้ ชิดเทนเดนท์พบว่าเพชรพลอยของเธอไม่ได้หายไปไหน
เจนพูดกับคนอื่นๆว่า “พวกเราจะได้เห็นแซซมีดอีกครั้งไหม คุณคิดเช่นนั้นไหม” ต่อมาก็ไปที่สวน
และแน่นอน พวกเขา...แต่ไม่ใช่เรื่องนี้ เป็นที่ที่ต่างกันมากๆ  มันอยู่ใน... แต่ฉันจะไม่พูดมากกว่านี้








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น