Learning log
First : (7th August, 2015)
1.Learning
·
E-language learning = conscious(รู้ตัวที่จะไปเรียนรู้)
·
E-language acquisition = subconscious (การเรียนรู้แบบไม่รู้ตัว
เป็นการเรียนรู้แบบธรรมชาติ)*ต้องมีให้มากที่สุด
·
Input (ตัวป้อน)= process(กระบวนการ) =Output(ผลที่ออกมา)= Outcome(ความพึงพอใจ)
Input (ตัวป้อน)= process(กระบวนการ) =Output(ผลที่ออกมา)= Outcome(ความพึงพอใจ)
I+1=Comprehensible Input
-
Input (นักเรียน)
= background knowledge(schema)=lay level
-
(ครู)
ป้อนเข้าให้นักเรียนและต้องรู้ความรู้เดิมของนักเรียน
-
Gap
คือ ปัญหา ทำให้นักเรียนไม่รู้เรื่อง
2. กาล (Tenses)
ในภาษาอังกฤษมีคำกริยาที่บอกว่าการกระทำนั้นเกิดขึ้นเมื่อไร
แต่สำหรับในภาษาไทยคำกริยาจะไม่มีการบอกเวลา แต่จะมีคำที่ขยายกริยาเป็นตัวบอกกาล
ฉะนั้นกาลในประโยคภาษาไทยกับภาษาอังกฤษจึงมีความแตกต่างกัน
·
He
lived in Lampang for a year. (Past Simple)
[เขาเคยอยู่ลำปางมาก่อน 1 ปี]
·
He has
lived in Lampang for a year. (Present Perfect)
[เขาอยู่ลำปางมาแล้วเป็นเวลา 1 ปี]
*จากสองประโยคนี้ใช้กาลต่างกัน
·
This
hotel serves breakfast at seven o’clock. (Present
Simple)
[โรงแรมบริการอาหารเช้าเวลา 7.00 น.] *ทำเป็นปกติวิสัย
·
Prani
had sent us a letter before she left.
[ปราณีส่งจดหมายมาถึงเราก่อนที่เธอจะไป]
จากตัวอย่าง
ใช้บอกการกระทำที่เกิดก่อนและจบก่อเหตุการณ์ในอดีต โดย Past Perfect ใช้กับการกระทำที่เกิดขึ้นและจบลงก่อน
Past Simple *เหตุการณ์ทั้ง2 เหตุการณ์เกิดขึ้นในอดีต
3.
ข้อแนะนำในการแปล
-
กาลสามารถบอกว่าการกระทำนั้นเกิดขึ้นเมื่อไร บอกถึงการคาดคะเน ความตั้งใจ เป็นต้น
-
ในการแปลต้องตีความกาลในประโยคนั้นๆก่อน
-
ในการแปลต้องใช้คำที่มีความหมายตรงกัน
-
ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงคำขยายเวลา ควรใช้คำที่สามารถเข้าใจตรงกัน
*สั้น กะทัดรัด และได้ใจความ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น